ขีดจำกัดของเทคโนโลยีถูกทลายกำแพงลงในทุกปีด้วยความพยายามของมนุษย์ที่จะเอาชนะปัญหาและอุปสรรคต่างๆ เพื่อความสะดวกสบายในการดำเนินชีวิตที่ "ง่ายขึ้น" และผลงานสิ่งประดิษฐ์ใหม่ก็เผยโฉมออกมาอยู่ตลอดเวลา มาดูกันว่าในปี 2013 มีเทคโนโลยีหรือสิ่งประดิษฐ์อะไรที่น่าสนใจบ้าง
Hyperloop
แนวคิดระบบขนส่งความเร็วสูงที่ใช้ท่อลดแรงดัน ขับเคลื่อนยานแคปซูลที่ทำงานด้วยแรงผลักของมอเตอร์เหนี่ยวนำและแรงอัดอากาศ แนวคิดนี้ถูกเปิดเผยออกมาในเดือนสิงหาคม 2013 ซึ่งหากแนวคิดนี้ผ่านการอนุมัติจะสามารถวิ่งจาก Los Angeles ไปยัง San Francisco Bay ได้ด้วยเวลาเพียง 35 นาที ซึ่งเทียบได้ว่าผู้โดยสารจะเดินทางด้วยความเร็วเฉลี่ย 962 กิโลเมตร/ชั่วโมง และสามารถทำความเร็วสูงสุดด้วยความเร็ว 1,220 กิโลเมตร/ชั่วโมง
curved display smartphone
ครั้งแรกที่เราเห็นหน้าจอสมาร์ทโฟนที่ออกแบบให้มีกระจกแบบโค้งเล็กน้อยต้องย้อนกลับไปที่ปี 2010 โดย Samsung Nexus S สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่มีกระจกโค้งปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรก แต่ในขณะนั้นยังไม่สามารถยืดหยุ่นหรือบิดโค้งงอได้ และในปี 2013 เป็นครั้งแรกที่มีการเปิดตัวอุปกรณ์ที่มีหน้าจอโค้งงอได้จริง โดยปีนี้มีทั้ง LG G Flex, Samsung Galaxy Round ถูกเปิดตัวออกมาและพร้อมวางจำหน่ายทั่วโลกในปีหน้า
Oculus Rift
อุปกรณ์สวมหัวที่สามารถแสดงภาพเสมือนสมจริง (Virtual Reality) ซึ่งภายในแว่นเป็นจอภาพที่แยกตาซ้ายและตาขวาออกจากกัน ภาพที่ได้จึงเป็น 3 มิติ โดยพื้นที่ของจอภาพจะกินบริเวณกว้างไปถึงหางตา ทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกได้ถึงความสมจริงของภาพ และยังมีระบบตรวจจับการเคลื่อนไหวของศีรษะ เมื่อเวลาหันหรือเปลี่ยนทิศทางการมอง มุมมองในแว่นก็จะเปลี่ยนตาม สามารถใช้งานร่วมกับเกมมันส์ๆ บนเครื่องพีซีพร้อมมอบความสมจริงชนิดที่ว่าวางจอยคอนโทรลเลอร์กันไม่ลง
Air Drones
หุ่นยนต์ตรวจจับความเคลื่อนไหวทางอากาศ ถูกพัฒนาขึ้นมาอย่างมากในหลายองค์กร เพื่อเป้าหมายในการติดตามผลทางอากาศ บางองค์กรนำไปใช้ในการสำรวจและเฝ้าระวัง แต่ก็มีการนำไปเป็นเครื่องมือทางการทหารด้วยเช่นกัน
3D printer
เครื่องพิมพ์สามมิติมีการพัฒนาขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1980 จนถึงปัจจุบันมีการนำเครื่องพิมพ์สามมิติไปใช้อย่างแพร่หลายในเชิงพาณิชย์ ช่วยให้การสร้างชิ้นงานด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบในวงการอุตสาหกรรมพัฒนาไปได้ก้าวไกลมากขึ้น ข้ามไปถึงความคิดที่จะนำเครื่องพิมพ์สามมิติไปใช้งานในอวกาศหรือเอาไปตั้งบนดวงจันทร์เพื่อสร้างเครื่องมือต่างๆ รวมถึงอาหารและที่อยู่อาศัยให้มนุษย์ได้ใช้งานนอกโลกเลยทีเดียว
The New Space Race
"ทรัพยากรบนโลกใบนี้มีเพียงพอสำหรับคนทุกคน แต่มีไม่เพียงพอสำหรับคนโลภแม้เพียงคนเดียว" การแข่งขันเพื่อแย่งชิงทรัพยากรนั้นก้าวล่วงไปถึงอวกาศเสียแล้ว โดยปีนี้นาซ่าได้เปิดตัวยานสำรวจดาวอังคารรุ่นใหม่ล่าสุด ส่วนจีนก็ส่งยานลงจอดที่ดวงจันทร์สำเร็จนับตั้งแต่ครั้งแรกในปี 1976 อีกไม่นานคงมีการนำหุ่นยนต์ไปเดินเล่นที่ดาวเคราะห์น้อย และอาจจะมองไกลไปถึงขั้นการนำแร่หรือทรัพยากรในดาวอื่นกลับมาสู่โลก
Wearable Technologies
Google Glass แว่นตาอัจฉริยะจากค่าย Google ถูกเผยโฉมครั้งแรกในปี 2012 และถูกสร้างขึ้นมาอย่างจำกัดเพื่อการวิจัยพัฒนาต่อ จนกระทั่งในปี 2013 แว่นตาดังกล่าวได้กลายเป็นเครื่องมือจุดประกายให้ผู้ผลิตอุปกรณ์ไอทีเร่งผลักดันสินค้าประเภทอุปกรณ์สวมใส่และเครื่องแต่งกายไฮเทคมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น Pebble smartwatch, Samsung Galaxy Gear และ Qualcomm Toq เหล่านี้ยังเรียกว่าเป็นอุปกรณ์ "รุ่นชิมลาง" เพราะมีการคิดไกลไปถึงการออกแบบเสื้อผ้าฝังชิปหรือแม้กระทั่งวิกผมฝังชิปกันเลยทีเดียว
ประโยชน์ของเทคโนโลยีสำหรับมนุษย์ก็คงจะเป็นเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพิ่มมากขึ้น แต่ต้องพึงระวังว่าการได้เทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้งานต้องไม่ใช่การทำร้ายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หากไม่เช่นนั้นแล้วในวันใดวันหนึ่งข้างหน้าธรรมชาติก็อาจจะลงโทษมนุษย์กลับคืนได้เช่นเดียวกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น